ตัวอักษรวิ่ง

Welcome To Bannongmekpittaya School

วันพุธที่ 1 สิงหาคม พ.ศ. 2555

กลยุทธ์/นโยบาย

หลักการ แนวคิดการบริหารงาน
           รูปแบบในการบริหารงานเพื่อพัฒนาระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายใน สถานศึกษาได้มีนักวิชาการและองค์กรทางการศึกษาได้นำเสนอแนวคิดการบริหารงานเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา ซึ่งนายทองสุข รวยสูงเนิน ศึกษานิเทศก์ 9 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสุรินทร์ เขต 1 ได้สรุปแนวคิดการบริหารงาน 5 แนวคิดไว้ใน คู่มือปฏิบัติการ การบริหารงานวิชาการที่ส่งเสริมการพัฒนาวิชาชีพครู   ( 2540 : 10-16 ) ไว้ดังนี้

           แนวคิดที่ 1 การบริหารงานอย่างเป็นระบบ
               ระบบที่กล่าวถึงในที่นี้มีความหมายสำคัญอยู่ 2 ส่วน คือ ระบบที่เป็นหน่วยทำงานและระบบที่เป็นกระบวนการปฏิบัติงาน (กรมวิชาการ, 2535 : 7-12) ซึ่งมีรายละเอียดของการบริหารงานอย่างเป็นระบบตามความหมายทั้ง 2 ส่วน สรุปได้ คือ
               1.  ระบบที่เป็นหน่วยทำงาน  เป็นการมององค์การหรือโรงเรียนในรูปของระบบตามความหมายนี้ เป็นการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบต่าง ๆ ของโรงเรียนและมีจุดประสงค์เป้าหมายที่แน่นอนประกอบด้วยส่วนต่าง ๆ ของระบบดังนี้
               1.1  องค์ประกอบในการทำงาน(ปัจจัย)
               1.2  วิธีการทำงานร่วมกันขององค์ประกอบ(กระบวนการ)
               1.3  เป้าประสงค์ของงานที่ทำ(ผลผลิต)
               1.4  คุณประโยชน์ที่พึงเกิดขึ้นจากการทำงาน(ผลกระทบ)
           การบริหารงานอย่างเป็นระบบ จึงเป็นการจัดสภาพของหน่วยงานและงานภายในหน่วยงานให้มีความสัมพันธ์กันเชิงเหตุผลเป็นขั้นตอนที่ส่งผลต่อเนื่องกัน ตั้งแต่องค์ประกอบการทำงาน(ปัจจัย) จนถึงผลปลายทาง (ผลกระทบ) ดังแผนภาพ
ปัจจัย
กระบวนการ
ผลผลิต
ผลกระทบ
 


           
              

2.  ระบบที่เป็นกระบวนการปฏิบัติงาน อาจเรียกชื่ออย่างอื่นอีกในความหมายเดียวกัน เช่น การทำงานเป็นระบบ การทำงานเป็นกระบวนการหรือวิธีการเชิงระบบ เป็นต้น ลักษณะการทำงานเป็นระบบคือการทำงานที่มีขั้นตอนตามลำดับก่อนหลัง ตั้งแต่เริ่มงานจนเสร็จสิ้นครบวงจรการทำงาน ขั้นตอนที่กำหนดอาจมากน้อยต่างกัน ขึ้นอยู่กับความซับซ้อนของงาน แต่ควรจะมีขั้นตอนสำคัญต่อไปนี้
               2.1  ขั้นกำหนดปัญหา หรือความต้องการที่จะพัฒนางานว่าต้องการพัฒนาอะไรมีจุดมุ่งหมายและเป้าหมายอย่างไร
               2.2  ขั้นวางแผนในการดำเนินการ เลือกวิธีการ เทคนิคที่จะพัฒนางานนั้นให้บรรลุเป้าหมาย วัตถุประสงค์
               2.3  ขั้นลงมือปฏิบัติตามแผนที่กำหนดไว้
               2.4  ขั้นติดตาม ตรวจสอบและปรับปรุงงาน สรุปผลงาน
               โกวิท  ประวาลพฤกษ์ (2532 : 37-47) ได้กล่าวถึงการทำงานอย่างเป็นระบบในการนิเทศการศึกษาไว้เป็น 6  ขั้นตอน  คือ
               1.  ขั้นตระหนักว่าต้องมีการพัฒนา
               2.  ขั้นรู้จุดที่จะพัฒนา
               3.  ขั้นรู้วิธีการพัฒนาในแต่ละจุด
               4.  ขั้นลงมือปฏิบัติตามวิธีการที่กำหนด
               5.  ขั้นตรวจสอบผลการปฏิบัติ
               6.  ขั้นภูมิใจในผลงาน
           แนวคิดที่ 2 การบริหารแบบมีส่วนร่วมหรือการบริหารเชิงประสานสัมพันธ์
               การบริหารแบบมีส่วนร่วม เป็นรูปแบบของการทำงานที่ยึดความเกี่ยวข้องผูกพันร่วมกันของสมาชิกในองค์การ ในการคิดตัดสินใจการร่วมปฏิบัติงาน ให้ข้อเสนอแนะและการเป็นเจ้าของกิจการหรือรับประโยชน์ร่วมกัน เอกชัย กี่สุขพันธ์ (2538 : 327-334) กล่าวถึงการบริหารแบบมีส่วนร่วมพอสรุปได้ว่า ความรู้สึกเกี่ยวข้องผูกพันนี้เป็นการสร้างความรู้สึกที่ดีในการปฏิบัติงานร่วมกันเกิดการทำงานเป็นทีม (Team work) ทำให้มีการต่อต้านน้อยลง มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร ซึ่งกันและกัน ยอมรับความสามารถซึ่งกันและกันเกิดความไว้วางใจระหว่างสมาชิกในองค์การ เป็นผลดีต่อการพัฒนางานระดับของการมีส่วนร่วมเป็นความรู้สึกของบุคคลที่มีต่องาน ซึ่งมีระดับความเข้มดังนี้
การมีส่วนร่วม
( Participation)
ความเกี่ยวข้องผูกพัน
( Involvement)
ข้อผูกมัดตกลงร่วมกัน
( Commitment )
 




           ระดับความเข้มของการมีส่วนร่วมนอกจากจะเป็นระดับของจิตใจแล้วยังมีปริมาณของการมีส่วนร่วมในกิจกรรมต่าง ๆ ตามกระบวนการของการปฏิบัติงาน ซึ่งพอจะเขียนเป็นแผนภูมิของการมีส่วนร่วมได้ดังนี้

ร่วมคิด
ร่วมทำ
ร่วมประเมิน
ร่วมรับผล
 


           ระดับการมีส่วนร่วมนั้น ผู้บริหารจะเป็นบุคคลสำคัญที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ร่วมงานให้มีบทบาท โดยการสร้างบรรยากาศในรูปแบบต่าง ๆ เช่น การไว้วางใจผู้ร่วมงาน การยอมรับฟังความคิดเห็น การใช้เทคนิค การตัดสินใจโดยกลุ่ม เป็นต้น  นอกจากนี้ยังขึ้นอยู่กับความรับผิดชอบของสมาชิกในองค์การ เวลา และสถานที่อีกด้วย ผู้บริหารจึงต้องรู้จัก วิเคราะห์คน วิเคราะห์สถานการณ์ ประกอบไปด้วย
           มีหลักการสำคัญ  4  ประการ ที่เป็นพื้นฐาน ปรัชญาในการบริหารเชิงประสานสัมพันธ์หลักการเหล่านี้มุ่งพัฒนาสัมพันธภาพที่วางไว้ (กรมวิชาการ, 2534 : 26)
           1.  กระบวนการบริหารทั้งกระบวนการ สร้างขึ้นด้วยสัมพันธภาพ ที่ผูกพันและไว้วางใจกัน ทั้งนี้ย่อมต้องอาศัยการเปิดเผยและความซื่อสัตย์ต่อกันระหว่างผู้บริหารและผู้ใต้บังคับบัญชา
           2.  ผู้ใต้บังคับบัญชาปฏิบัติงานได้ดีเพราะเขาเข้าใจตนและตนเข้าใจปัญหา ไม่ใช่เพราะปฏิบัติงานตามที่ถูกสั่งหรือบังคับให้ปฏิบัติงาน
           3.  การตัดสินใจของผู้ปฏิบัติงานอย่างอิสระช่วยให้ผู้ปฏิบัติงานภาคภูมิใจในผลงานเพราะมนุษย์แสวงหาสิทธิที่จะตัดสินใจด้วยตนเองมากกว่าถูกบังคับบัญชาหรือชักจูงให้ตัดสินใจ แม้ว่าผลของการตัดสินใจนั้น จะมีข้อสรุปตรงกับที่เขาได้คิดเอง ตัดสินใจเองก็ตาม
           4.  สร้างความไว้วางใจให้ผู้ปฏิบัติงานแก้ปัญหา ได้ด้วยตนเองโดยมีผู้บริหารคอยให้ความช่วยเหลือ จงอย่าเป็นผู้แก้ปัญหาให้ผู้ใต้บังคับบัญชา ถ้าบีบบังคับให้เขาแก้ปัญหาในฐานะผู้บริหาร เขาจะโกรธท่านและไม่พอใจกับการแก้ปัญหานั้น ถึงแม้จะได้ผลดีกว่าก็ตาม

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น